วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

ธุรกิจ SMEs ไทย

ยุทธศาสตร์การส่งเสริมธุรกิจ SMEs ไทยกับการแข่งขันในทศวรรษที่ 21

            วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจโดยมีจำนวนถึงประมาณร้อยละ 99 ของธุรกิจทั้งหมดวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นฐานรากการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นกลไกหลักในการฟื้นฟูและเสริมสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจรวมทั้งเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาความยากจนข้อมูลที่ยืนยันถึงบทบาททางเศรษฐกิจไทยที่สำคัญดังกล่าวได้แก่ การก่อให้เกิดการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วนถึงกว่าร้อยละ 76 ของการจ้างงานรวมของประเทศ บทบาทในการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ประมาณร้อยละ 39 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั้งหมดและมีมูลค่าการส่งออกโดยตรงคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 29 ของมูลค่าการส่งออกรวม


ปัญหาอุปสรรค SMEs ไทย

            สภาพปัญหาอุปสรรค ทั้งที่เกิดจากข้อจำกัดของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเอง หรือจากการขาดปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐและจากปัจจัยภายนอกกิจการได้ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ที่สำคัญ ได้แก่ การที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยส่วนใหญ่ยังมีประสิทธิภาพด้านการผลิต การจัดการต่ำ และขาดขีดความสามารถในการใช้และพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม การสร้างและการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งนำไปสู่การขาดความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงมีนวัตกรรมมีความแตกต่าง และนำไปสู่ปรากฎการณ์ของปัญหาหลายประการ เช่น มีการขยายตัวต่ำ มีการหดตัวในบางสาขาเศรษฐกิจ (ภาคการค้า) รวมทั้งมีการส่งออกสินค้าในกลุ่มที่เป็นสินค้าปฐมภูมิและใช้แรงงานมากที่มีมูลค่าต่ำเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อยไทยยังมีโอกาสและลู่ทางที่ดีทางด้านการผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ภูมิปัญญาในประเทศ ความรู้สั่งสม ทักษะฝีมือ ความปราณีต อัธยาศัยไมตรี และวัตถุดิบภายในประเทศ ที่สอดคล้องกับความต้องการและแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ รวมทั้งโครงสร้างทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป หากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อยไทยมีการปรับตัว หลีกหนีจากการแข่งขันในตลาดล่างไปสู่การผลิตป้อนตลาดระดับกลางและระดับบนขึ้นไปที่ใช้องค์ความรู้ ทักษะ ฝีมือและความเป็นไทยในการผลิตและการจัดการโดยจะต้องได้รับการสนับสนุนในด้านปัจจัยเอื้อและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการจากภาครัฐด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น